วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

การเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมแบบง่ายๆ

การเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมแบบง่าย

บ้านจะมีแสงส่องผ่านเข้ามาได้ก็จะต้องมีหน้าต่าง แต่บางครั้งแดดก็แรงเกินไปควรจะต้องหาวัสดุอะไรสักอย่างมาช่วยลดความรุ่นแรงของแสงแดดลงบ้าง และประเด็นสำคัญคือต้องออกมาดูสวยอีกด้วย หน้าที่นี้คงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของผ้าม่าน
 หน้าต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญคู่กับบ้าน ที่เป็นส่วนช่วยลดและเพิ่มแสงได้ในบางเวลาที่คุณต้องการ โดยผ่านวัสดุที่เลือกใช้ในการบังแสงแดดในยามที่บ้านต้องรับแสงแดดเต็มๆ
ผ้าม่านหน้าต่าง
ผ้าม่านหน้าต่าง

ผ้าม่านสำหรับหน้าต่างเลือกให้เหมาะ
หน้าต่างเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีอยู่คู่บ้าน ลักษณะก็ย่อมมีความแตกต่างกันไปตามรูปแบบของตัวบ้าน เมื่อมีหน้าต่างหรือช่องแสงแล้วในบางครั้งเมื่อมีแสงสว่างมากเกินไป อย่างในช่วงบ่ายหรือช่วงหน้าร้อนซึ่งเป็นช่วงที่แสงแดดจัดมากและความสว่างมากกว่าช่วงอื่น จำเป็นที่จะต้องหาวัสดุมาช่วยกรองหรือกั้นแสง แดดจากภายนอกให้ลดน้อยลง และวัสดุที่ว่านั้นก็คือ “ม่าน”นั่นเอง
นอกจากจะช่วยกันแสงแดดแล้ว ม่านยังให้ความเป็นส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งหน้าต่างหรือช่องแสงกระจกใสไม่สามารถช่วยได้
การเลือกแบบม่านที่จะให้เข้ากับลักษณะของการตกแต่งภายในนั้นอาจดูเป็นของ ง่าย เช่น ความคิดที่ว่าการเลือกสีของม่านควรให้เข้ากับสีของผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ แค่นี้ก็เป็นอันใช้ได้
หากคิดแค่นี้ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่การที่บ้านจะดูสวยงามได้นั้นนอกจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ประกอบเข้ากันแล้วยังควรต้องคำนึงถึงบรรยากาศภายในบ้านที่จะช่วยส่งเสริม กันอีกด้วย
การทำม่านแต่ละแบบ จะขึ้นอยู่กับสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ และสภาพโดยทั่วไปของห้องด้วย แต่จะให้บอกเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวว่า แบบม่านเช่นนี้ ต้องใช้กับเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ ก็คงเจาะจงไม่ได้ เพราะเรามีการตกแต่งแบบผสมผสานกันระหว่างเก่ากับใหม่ หรือมีการประยุกต์ใช้กัน ตัวอย่างบางกรณีที่ไม่อาจจัดรวมกันได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่ง แบบม่านกลับไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งดูแล้วขัดตา ไม่สวย แถมยังใช้เงินเกิน ความจำเป็นด้วย

ผ้าม่านแบบทูโทน
ผ้าม่านแบบทูโทน

อย่างเช่นลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคุณเป็นแบบธรรมดา ๆ เป็นพวกเก้าอี้หวาย แต่คุณกลับไปเลือกม่านจับจีบห้อยระบายแบบหลุยส์ รวมทั้งชนิดของผ้าม่านและลวดลายของผ้าด้วย อย่างนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าคู่กันได้ หรือคุณเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบสมัยใหม่
แต่กลับไปเลือกผ้าม่านเป็นลูกไม้โปร่งแบบโบราณ ก็ไปกันไม่ได้อีกเช่นกัน
การเลือกแบบผ้าม่านให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันต่างก็เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดความสวยงามและสมบูรณ์แก่บ้าน แต่ละสไตล์ก็จะมีแนวทางการทำผ้าม่าน ไม่เหมือนกัน เช่น แบบจีนหรือแบบตะวันออกนิยมทำเป็นม่านไม้ไผ่ (บางท่านเรียกมู่ลี่ไม้ไผ่) หรือบางท้องถิ่นก็จะใช้ผ้าที่ทอขึ้นมาเองที่มีใช้กันในท้องถิ่นเป็นผ้าม่าน หากเป็นแบบตะวันตกที่เป็นแบบ โบราณตามยุคสมัยต่าง ๆ ลักษณะของผ้าม่านก็จะแตกต่างกันไปบ้าง
ม่านไม้ไผ่ หรือ มู่ลี่ไม้ไผ่
ม่านไม้ไผ่ หรือ มู่ลี่ไม้ไผ่


ขอขอบคุณบทความโดย หนังสือ วัฏสาร อาคารและที่ดิน

ติดผ้าม่านที่หมู่บ้าน เดอะ เทอเรส รามอินทรา 65

โครงการเดอะ เทอเรส รามอินทรา 65 เป็นอีกหนึ่งโครงการของ Land&House ลักษณะเป็นTownHome 3ชั้น ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยรามอินทรา65 เข้าไปประมาณ 400ม. โครงการจะอยู่ด้านขวามือ


แบบผ้าม่านที่ทางลูกค้าเลือก สำหรับประตูด้านหน้าและหลังเลือกใช้เป็นม่านแบบจีบ เปิดปิดโดยใช้รางโชว์แบบรางเหล็กขนาด19มม.ช่วยเพิ่มความหรูหรา ผ้าม่านที่เลือกใช้เป็นชนิดทึบแสงสียอดนิยมคือสีน้ำตาลเข้ม ผ้าชนิดนี้ช่วยกันแสงได้เป็นอย่าดี และมีน้ำหนักทิ้งตัวได้ดี


ผ้าม่านชนิดทึบแสงติดบริเวณประตูหน้า และรางที่ใช้เป็นรางโชว์เหล็กขนาด19มม.

บริเวณประตูหลังติดผ้าม่านแบบทึบแสงโดยใช้รางโชว์เป็นรางเหล็ก19มม.
มาถึงส่วนของชั้นสอง ผ้าม่านยังคงเลือกใช้สีน้ำตาลเข้มแต่เป็นผ้าธรรมดาไม่ทึบแสงลายดอกซากุระ ถึงจะไม่ใช้ผ้าทึบแสงแต่ก็กันแสงได้ดีพอสมควรเพราะเป็นสีน้ำตาลเข้ม

ผ้าม่านชั้น2 ห้องด้านหน้า เป็นม่านจีบเปิดปิดด้วยรางตัวเอ็ม ส่วนของหน้าต่างเลือกใช้เป็นม่านพับ
ผ้าม่านจีบบริเวณหน้าต่างชั้น2

บริเวณชั้น2ห้องด้านหลัง เป็นม่านจีบรางโชว์เหล็กขยาน19มม.

แบบผ้าม่านส่วนของห้องนอนชั้น3 เป็นม่านจีบรางโชว์สีที่เลือกเป็นสีเบสทำให้บรรยากาศในห้องนอนดูเย็นสบายน่านอน

ม่านจีบรางโชว์บริเวณประตูหน้า (ก่อนBuild in)

ม่านจีบรางโชว์หน้าต่างด้านหลัง ทำถึงพื้นเพื่อหลอกสายตา

ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจร้านผ้าม่านไทย
เชิญชมตัวอย่างผลงานอื่นๆได้ทาง http://www.pamanthai.com/demo_curtain.htm

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

เพิ่มความลงตัวให้แสงสว่างที่เข้ามาในห้องด้วยมู่ลี่

เพิ่มความลงตัวให้แสงสว่างที่เข้ามาในห้องด้วยมู่ลี่
      สำหรับห้องหรือบริเวณภายในบ้านที่มีปัญหาในเรื่องของระดับแสงที่สาดส่องเข้ามา มู่ลี่ จัดเป็นม่านรูปแบบที่ดีรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการแก้ปัญหาระดับแสง เนื่องจากมู่ลี่ถูกออกแบบให้สามารถกันแสงและสามารถปรับมุมของใบเพื่อให้ได้ระดับของแสงที่ส่องเข้ามาตามความต้องการได้ โดยจะให้แสงส่องเข้ามามากหรือน้อยทำได้โดยการปรับแกนปรับหรือถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆจะปรับโดยใช้เชือกหรือโซ่ในการปรับมุมโดยที่การปรับระดับการให้แสงเข้ามามากน้อยต่างๆนั้นจะขึ้นอยู่กับระดับองศาของตัวใบมู่ลี่


      การเลือกมู่ลี่มาใช้กับช่องรับแสงภายในของบ้าน ออฟฟิศ หรือ ห้องในคอนโด ก็มีส่วนเพิ่มความสวยงามลงตัวของห้องนั้นๆได้อีกด้วยโดยการเลือกสีของตัวใบ สำหรับห้องที่มีสีในโทนสีครีม แล้วเราเลือกซื้อมู่ลี่สีครีม สีขาว หรือสีอะไรก็ได้ที่เป็นโทนเดียวกันนี้ บ้านของเราก็เหมือนกับได้สิ่งของตกแต่งที่แมทกันกับโทนสีบ้านเพิ่มมาหนึ่งอย่าง แต่หากเลือกสีให้ตัดออกไปเลยก็จะเป็นการเพิ่มจุดเด่นให้ห้องได้

      ข้อดีหลักๆที่ควรเลือกใช้มู่ลี่ ก็เป็นเรื่องการปรับแสงได้ตามต้องการและเรื่องความทนทานเนื่องจากใบทำด้วยอลูมิเนียมซึ่งทนได้ดีต่อทั้งแดด และความชื้นด้วย เราไม่ต้องห่วงปัญหาเรื่องความสีจางจากแสงแดดไปเลย วัสดุที่ใช้นำมาทำเป็นมู่ลี่มีด้วยกันสองประเภทหลักๆก็คืออลูมิเนียมและที่กำลังเป็นที่นิยมได้แก่มู่ลี่ไม้ 

      เรื่องการทำความสะอาดทำความสะอาดมู่ลี่อาจจะเป็นเรื่องยากเพราะมีช่องเล็กช่องน้อยจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ควรกระทำเพื่อยืดอายุการใช้งาน

การทำความสะอาดมู่ลี่
ยิ่งถ้าคุณทำความสะอาดมู่ลี่ได้ บ่อยเท่าไรก็ยิ่งจะช่วยผ่อนแรงได้มากขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณปัดฝุ่นประจำ มิใช่รอจนกระทั่งเขรอะไปหมด ก็จะช่วยให้มู่ลี่ปลอดจากคราบน้ำมัน ความชื้นในอากาศที่เกาะตัวผสมกับละอองฝุ่นจนกลายเป็นคราบสกปรกฝังแน่น ซึ่งยากแก่การทำความสะอาด ควรใช้ผ้ามัสลินเช็ดมู่ลี่ สักเดือนละครั้งเพื่อจำกัดฝุ่น หรือคุณอาจจะใช้ไม้ปัดฝุ่นขนแกะก็ได้ วิธีการก็คือปิดบานพับมู่ลี่ให้ลู่ลง เช็ดฝุ่นออกด้านเดียวก่อน จากนั้นก็ปิดบานพับให้ลู่ขึ้นไปอีกด้านหนึ่งเพื่อเช็ดฝุ่นออก ถ้าคุณใช้ไม้ขนแกะปัดฝุ่นก็ต้องแน่ใจว่าขนแกะได้สัมผัสมู่ลี่จริง ๆ มิใช่เพียงแค่สะบัดไม้ขึ้น ๆ ลง ๆ เท่านั้น

การล้างมู่ลี่
การชำระล้างก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำความสะอาดมู่ลี่อย่างล้ำลึก แต่ทว่าอย่าได้นำเอามู่ลี่ไปล้างในอ่างอาบน้ำหรือว่าล้างมู่ลี่ทั้ง ๆ ที่ยังมิได้ปลดออก
1. เลือกบริเวณลานบ้านที่พื้นผิวเรียบและมีความลาดเอียงเล็กน้อย (เพื่อเป็นทางน้ำไหล) และนำผ้านวมหรือผ้าห่มผืนเก่าที่เราไม่ใช้แล้วเตรียมเอาไว้
2. ปิดบานพับมู่ลี่ให้ลู่ลง ตรวจดูให้แน่ใจว่าบานพับทุกซี่ปิดหมดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงถอดมู่ลี่ออกแล้ววางลงบนผ้านวมหรือผ้าห่มที่เตรียมไว้
3. ผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์หรือไม่ก็น้ำยาสูตรแอมโมเนียจากนั้นใช้น้ำยา ที่ผสมนี้ชโลมมู่ลี่ให้ชุ่มและใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดโดยขัดไปในแนวเดียวกับบานมู่ลี่ ข้อสำคัญ เชือกดึงมู่ลี่จะต้องไม่โดนทับ เมื่อทำความสะอาดบานพับด้านหนึ่งเสร็จดีแล้วก็ปิดบานพับลู่ลงหรือลู่ขี้นไป อีกด้านหนึ่งล้างและขัดให้สะอาด
4. ขึงมู่ลี่กับราวตากผ้าหรือขึงกับบันไดต่อขาก็ได้ หรืออาจจะให้ใครอีกคนยืนถือเอาไว้ก็ได้แต่คงได้เปียกปอนกันคราวนี้ล่ะแล้วก็ ใช้สายยางพ่นฉีดน้ำ
5. จากนั้นก็เขย่า ๆ และทิ้งไว้ให้แห้งแล้วจึงนำกลับไปแขวนไว้ที่เดิม แต่ถ้ามู่ลี่เป็นสีเข้ม ก็ควรซับหรือเช็ดมู่ลี่ให้แห้งเสียก่อนเพื่อป้องกันคราบหยดน้ำ