วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567

มู่ลี่ไม้-วัสดุตกแต่งที่เรียบหรู

 หากนึกถึงสินค้าที่ใช้สำหรับตกแต่งและให้ความสวยงามกับห้องที่เน้นความเรีบบหรูดูเป็นธรรมชาติแล้ว มู่ลี่ไม้ จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์นั้นได้เป็นอย่างดี

มู่ลี่ไม้
การแต่งห้องด้วยมู่ลี่ไม้

 

การใช้มู่ลี่ไม้จะเหมาะสำหรับที่ไม่ชอบการใช้ผ้าเนื่องจากมีจุดเด่นที่กรณีที่ผู้ใช้งานต้องการชมวิวภายนอกสามารถทำได้โดยแค่การหมุนปรับองศาของตัวใบในการป้องกันแดดก็สามารถเห็นวิวภายนอกได้แล้ว

มู่ลี่ไม้ใบขนาด2นิ้ว
มู่ลี่ไม้ใบขนาด2นิ้วในห้องประชุม

ระบบที่ใช้ในการปรับใบแบ่งได้เป็น3ชนิดคือ

  1. ระบบเชือก เป็นระบบมาตาฐานปกติมีจุดเด่นคือใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
  2. ระบบแกน เป็นระบบดั้งเดิมปรับมุมโดยการหมุนที่ตัวแกน ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมแล้วเนื่องจากไม่คงทน
  3. ระบบโรตารี่ เป็นระบบที่ออกแบบมาใหม่ปรับโดยใช้โซ่หรือเชือกเพียงเส้นดียวมีข้อดีคือเรียบร้อย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบในการดึงมู่ลี่ได้ทางง https://www.pamanthai.com/wooden-blinds

 

ระบบเชือกปรับใช้งานในห้องนอน
ระบบเชือกปรับใช้งานในห้องนอน


ใบของมู่ลี่ไม้มีให้เลือก2ชนิดคือ ไม้รามินและไม้บาส


ข้อแนะนำในการเลือกใช้ กรณีชุดใหญ่ควรเลือกไม้รามินเพื่อยืดอายุการใช้งาน และลดปัญหาการบิดงอของใบมู่ลี่ในกรณีแสงแดดจัด หรือ เลือกใช้ไม้บาสแต่จำกัดความกว้างในแต่ละชุดเพื่อความคงทนและความสะดวกในการดึงขึ้นลง

แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้ไม้ชนิดใดใน การดึงมู่ลี่ไม้ขึ้นลงบ่อยๆมีโอกาศจำทำให้อุปกรณ์ชำรุดได้โดยปกติการใช้งานจะเน้นไปที่การปรับมุมเพื่อป้องกันแดดหรือใช้มองวิวภายนอกเท่านั้น

การร้อยใบของมู่ลี่ไม้จะใช้เทปผ้า(บันไดผ้า)ในการร้อยใบเพื่อความสวยงาม การเปิดปิดปิดใบจะใช้เชือกในการดึงเปิดปิด

 

ทำความสะอาดใบมู่ลี่ด้วยไม้ปัดขนไก่
ทำความสะอาดใบมู่ลี่ด้วยไม้ปัดขนไก่

 

การดูแลรักษาและทำความสะอาดมู่ลี่ไม้

มู่ลี่ไม้จัดเป็นสินค้าตกแต่งที่ค่อนข้างต้องให้การดูและรักษาและใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อที่จะช่วยให้ม่านดูใหม่อยู่เสมอและมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน

เป็นเพราะลักษณะการวางตัวของใบม่านเป็นการวางตัวในแนวนอน ตัวใบม่านจึงมีโอกาสที่จะรองรับฝุ่นที่ตกลงมาบนตัวใบของม่านในแต่ละแผ่นได้มาก จึงควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อไม่ให้มีการสะสมของฝุ่น

สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการใช้ไม้ปัดฝุ่นโดยอาจะทำ2สัปดาห์-เดือนละครั้งหรือหากมีเวลาพอสามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดไปทีละใบจะทำให้ม่านดูใหม่อยู่เสมอ

ในกรณีที่ฝุ่นจับตัวที่ใบแน่นสามารถใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา(ผงฝู)หมาดๆในการเช็ด จะช่วยให้การคราบฝุ่นที่สะสมอยู่บนใบหลุดออกได้ง่ายขึ้น

 

บทความโดย : ร้านผ้าม่านไทย


 

ม่านปรับแสงมีวิธีดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างไร

 

ม่านปรับแสงมีวิธีดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างไร

สินค้าชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในการป้องกันแสงแดดให้กับหน้าต่างและประตูชนิดหนึ่งก็คือ ม่านปรับแสง เป็นสินค้าชนิดนึงที่ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก
แต่หากต้องการทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ บทความนี้จะเสนอวิธีดูรักษาและทำความสะอาดรวมไปถึงวิธีการใช้งานที่ถูกวิธีเบื้องต้นให้ได้ทราบกัน 

ม่านปรับแสง
ม่านปรับแสงดิมเอาท์

วัสดุที่เป็นใบของม่านปรับแสงแบ่งได้เป็น3ชนิดคือ ใยสังเคราะห์ อลูมิเนียม และ พีวีซี ในส่วนของใยสังเคราะห์ยังแยกย่อยไปได้อีก3แบบได้แก่ ชนิดแสงผ่านได้,ชนิดทึบแสงและชนิดซันสกรีน
การทำความสะอาดจะเน้นไปที่ชนิดแสงผ่านได้ ซึ่งเป็นชนิดที่นิยมในท้องตลาดมากที่สุด 

 

ม่านปรับแสงใบทึบแสง
ม่านปรับแสงใบทึบแสงทำความสะอาดได้ง่าย

 

การดูแลรักษาและวิธีใช้งานม่านปรับแสง

  • ก่อนการรูดดึงเปิด,ปิด ถ้าเป็นไปได้ควรปรับใบให้เป็นแนวตั้งฉากกับกระจกหน้าต่างก่อน
  • ควรรวบม่านเก็บก่อน หากต้องการเปิดใช้งานหน้าต่าง,ประตู
  • สำหรับใบชนิดดิมเอาท์ หลีกเลี่ยงการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง
  • การทำความสะอาด

  • สำหรับใบม่านปรับแสงทุกชนิด การทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ไม้ปัดฝุ่นทั่วๆไป
    โดยปัดไล่จากด้านบนลงมาด้านล่าง
  • หรือหากฝุ่นเกาะมาก สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยได้
  • หากมีรอยเปื้อนเฉพาะจุดเล็กน้อย สามารถใช้ยางลมดินสอถูเบาๆบริเวณคราบเปิ้อนได้
  • กรณีรอยหนักอาจลองใช้ผ้าชุบน้ำที่มีผงฟูละลายอยู่ หรือ ใช้น้ำที่ผสมน้ำยาล้างจานอ่อนๆ เช็ดบริเวณคราบเปื้อนเบาๆในการทำความสะอาดได้
    วิธีนี้เหมาะกับการใช้กับใบม่านแบบทึบแสงชนิดผิวมัน และ ใบซันสกรีน หากเป็นใบม่านชนิดดิมเอาท์การขจัดคราบหนักออกจากใบถือเป็นเรื่องยาก ควรทำด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะกับใบม่านแบบดิมเอาท์อาจทำให้เหลือรอยด่างตกค้างได้
  • ห้ามนำใบไปถอดซักจะทำให้ตัวใบเสียหายได้
  • แปรงที่ใช้ในการปัดหรือเช็ดฝุ่นควรเป็นชนิดขนอ่อนอ อย่างเช่นแปรงสีฟัน
  • บทความโดย : ม่านปรับแสงมีวิธีดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างไร

     

    วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564

    ลดขนาดห้องเพื่อติดตั้งแอร์โดยใช้ฉากกั้นห้อง

     



        หลายท่านที่กำลังคิดจะติดตั้งแอร์หรือเครื่องปรับอากาศคิดว่าคงจะเจอปัญหาคล้ายๆกันคือการเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศว่าควรจะใช้ขนาดเท่าไรดี หลักคร่าวๆที่ใช้คำนวนจะใช้ของห้องเป็นตัวชี้ว่าควรจะเลือกเครื่องปรับอากาศขนาดใด โดยขนาดกำลังของแอร์(หรือความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องมีหน่วยเป็น btu/hr) จะแปรผันตรงกับขนาดของห้อง คือสำหรับห้องขนาดใหญ่ก็ต้องใช้เครื่องปรับอาศที่กินกำลังมากตามไปด้วย


     ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่จะมีการกินไฟฟ้าที่มากตามไปด้วยซึ่งหมายถึงต้องจ่ายค่าไฟมากขึ้น หากห้องหรือบริเวณที่เราต้องการปรับอากาศมีพื้นที่มากก็ต้องยอมรับค่าใช้จ่ายในการทำความเย็นตรงนี้ไป แต่หากว่าบริเวณที่เราต้องการความเย็นจากแอร์เป็นพื้นที่เล็กๆ(ในห้องขนาดใหญ่) ซึ่งอาจจะเป็นส่วนของห้องพักผ่อนดูหนัง ส่วนที่ใช้ทานอาหาร หรือ ส่วนของเตียงนอน ทำไมต้องเลือกแอร์ที่มีขนาดใหญ่ตามพื้นที่ของบ้านด้วย ไหนจะราคาแอร์ที่สูงขึ้น ค่าไฟที่ต้องจ่ายมากขึ้นในแต่ละเดือน



    ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยใช้ฉากกั้นห้องเพื่อลดขนาดห้องลง มีข้อดีเราสามารถเลื่อนเปิดปิดเฉพาะตอนที่เราต้องการเปิดแอร์ได้ ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและห้องเย็นเร็วขึ้น ติดตั้งง่ายใช้เวลาติดตั้งไม่นาน สามารถสั่งทำตามขนาดที่ต้องการได้ ตัวฉากกั้นห้องที่ทางร้านผ้าม่านไทยจำหน่ายและติดตั้งแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ ฉากกั้นห้องรุ่นมาตรฐาน ฉากกั้นห้องรุ่นเจาะช่องแสง และ ฉากกั้นห้องแบบญี่ปุ่น

     

    ฉากกั้นห้องแบบญี่ปุ่น

    ฉากญี่ปุ่น,ฉากกั้นห้องสไตล์ญี่ปุ่น ผลิตจากพีวีซีเช่นเดียวกับฉากรุ่นอื่นแต่ตัวใบจะมีขนาดใหญ่กว่าคือมีขนาดกว้าง12.5เซนติเมตร มีความหนา 1.2เซนติเมตร(หนากว่าฉากรุ่นธรรมดาถึง2เท่า) และโครงสร้าง,ข้อพับของฉากจะไม่เหมือนฉากกั้นห้องแบบทึบหรือรุ่นเจาะช่องแสง
    จุดเด่น สามารถเลือกใส่ช่องแสงให้เต็มทั้งตัวฉากได้ ใช้ลดขนาดห้องเพื่อลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้เป็นฉากที่มีราคาสูงที่สุด(สูงกว่ารุ่นเจาะช่องแสงเกือบเท่าตัว) เหมาะกับห้องที่ต้องการความหรูหราและพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก(เนื่อจากตัวฉากมีน้ำหนักมาก) 


     

    ฉากกั้นห้องรุ่นเจาะช่องแสง

    ฉากรุ่นนี้จะราคาขยับสูงกว่าฉากแบบทึบเกือบเท่าตัว ตัวฉากผลิตจากพีวีซีเช่นเดียวกับฉากแบบทึบ ใบฉากกว้างขนาด 8.5 ซม. และมีความหนา 0.6 ซม. โดยการนำฉากกั้นแบบทึบมาใส่ช่องแสงลงไป มีลักษณะเด่นคือมีการเจาะตัวฉากเพื่อใส่ช่องแสงอยู่ด้านบน(โดยปกติประมาณ 3-4 แถว) ตัวช่องแสงมีให้เลือกหลายแบบเช่น แบบใส ลายใบเมเปิ้ล ลายต้นไผ่ ลายน้ำไหล ลายเม็ดทราย และ ช่องแสงสีชา
    จุดเด่น ราคาไม่แพงน้ำหนักเบามีช่องแสงช่วยเพิ่มความสวยงาม

     
     
     


    ฉากกั้นห้องแบบทึบ(รุ่นมาตรฐาน)

    เป็นฉากรุ่นมาตรฐาน ตัวใบของฉากมีขนาด8.5ซม.ผลิตจากพีวีซี มีข้อดีคือราคาย่อมเยาและน้ำหนักเบาสามารถกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนได้ดี เปิดปิดได้โดยการเลือนตัวฉากไปตามรางที่แขวนอยู่ด้านบน
    จุดเด่น ราคาถูกน้ำหนักเบาเปิดปิดสะดวกมีให้เลือกหลายสี


     


    ลักษณะการใช้งานและดูแลรักษาฉากกั้นห้อง การใช้งานทำได้โดยแค่ดึงตัวฉากเข้าหรือออกจากผนังข้อดีอีกข้อของฉากกั้นห้องคือไม่มีการเจาะหรือติดตั้งที่พื้นห้อง เมื่อเราดึงฉากเก็บไว้ที่ผนัง พื้นห้องจะเหมือนห้องปกติ
    ลูกค้าสามารถสั่งผลิตตามขนาดและเลือกได้ได้ว่าจะให้ตัวฉากแยกออกตรงกลางหรือรวบไว้ด้านเดียว ข้อแนะนำสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ควรสั่งผลิตแบบแยกตรงการเพื่อลดการเดินทางของลูกล้อตอนใช้งานหรือตอนรวบเก็บ

    บทความโดย : ร้านผ้าม่านไทย 

     

    วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

    ต้องการติดผ้าม่านใหม่จะเริ่มต้นอย่างไรดี


    เมื่อต้องการจะหาม่านให้กับบ้านใหม่หรือต้องการเปลี่ยนผ้าม่านเก่าที่ใช้มานาน เริ่มต้นคือ 

    เลือกแบบผ้าม่านที่ต้องการแบบผ้าม่านที่ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกทำกันจะเป็น ผ้าม่านจีบ,ม่านพับ,ม่านตอกตาไก่ และ ม่านคอกระเช้า 
    โดยส่วนใหญ่บริเวณที่เป็นประตูมักจะใช้ม่านจีบเนื่องจากสะดวกในการเดินเข้าออกมากกว่าม่านพับ ส่วนหน้าต่างเลือกได้ทั้งม่านจีบและม่านพับ ม่านที่ไม่แนะนำให้เลือกใช้คือม่านคอกระเช้าเนื่องจากใช้งานดึงเปิดปิดทำได้ยาก โดยเฉพาะม่านชุดใหญ่ๆ



    เลือกรางสำหรับผ้าม่าน เราจะเลือกรางผ้าม่านเฉพาะม่านจีบ,ม่านตอกตาไก่ สำหรับม่านพับไม่ต้องเลือกรางเนื่องจากรางสำหรับม่านพับมีอยู่แบบเดียว รางผ้าม่านภาพรวมๆจะมีให้เลือกใช้อยู่ 2 ประเภท คือ
    • รางระบบลูกล้อ เช่น รางตัวเอ็ม รางตัวซี เปิดปิดม่านโดยใช้มือผลัก,ด้ามจูงผ้าม่าน,เชือกชักรอก
    • รางโชว์ เช่น รางโชว์เหล็ก19ม.ม. รางโชว์อลูมิเนียมลายไม้ เปิดปิดม่านโดยใช้มือผลัก,ด้ามจูงผ้าม่าน
    สำหรับม่านจีบสามารถเลือกใช้งานได้ทั้ง รางระบบลูกล้อและรางโชว์ ส่วนม่านตาไก่,คอกระเช้าจะใช้ได้กับรางโชว์เท่านั้น รางระบบลูกล้อ จะเหมาะสำหรับประตู หน้าต่าง ที่มีการใช้งานเปิดปิดผ้าม่านบ่อยๆจะทำได้ง่ายและคล่องตัวกว่ารางโชว์พอสมควร หรือ ถ้าต้องการความสวยงาม มีแบบให้เลือกมากมาย ก็ต้องมาดูที่รางโชว์ (ที่เรียกว่ารางโชว์เนื่องจากตัวรางจะอยู่บนผ้าม่านตลอดเวลาไม่ว่าจะปิดหรือเปิดผ้าม่าน) รางโชว์จะมีแบบรางให้เลือกมากสามารถเลือกหัวรางได้ตามความเหมาะสมแต่มีข้อเสียคือการเปิดปิดใช้งานจะไม่คล่องตัวเท่ารางระบบลูกล้อ สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้รางโชว์และต้องการความลื่นในการเปิดปิดผ้าม่าน ทางร้านผ้าม่านไทยมีรางโชว์รุ่นที่มีลูกล้อ รางรุ่นนี้จะช่วยแก้ปัญหาช่วยให้การเปิดปิดผ้าม่านทำได้คล่องมือขึ้นพอสมควรเมื่อเทียนกับรางโชว์ทั้วไป



    เลือกผ้าม่าน ผ้าม่านโดยทั่วไปที่นิยมใช้กันจะเป็นประเภทที่ยอมให้แสงผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ เมื่อปิดม่านแล้วภายในบ้านยังไม่มืดดูเป็นธรรมชาติ ผ้าม่านประเภทนี้จะมีแบบและลายให้เลือกมากที่สุดเนื่องจากใช้งานได้ครอบคลุมความต้องการได้มาก แต่ในปัจจุบันผ้าม่านอีกชนิดที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือผ้าชนิดทึบแสงในตัว ผ้าชนิดนี้สามารถช่วยให้ภายในห้องมืดได้กว่า 80-90% โดยไม่ต้องติดม่านฉาบปรอทซับไปด้านหลังอีกชั้น ทำให้ผ้าม่านดูเป็นธรรมชาติไม่พองหนาเหมือนการติดผ้าฉาบปรอทแบบเมื่อก่อน สำหรับการติด ผ้าโปร่งจะเหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ หรือ ต้องการความเป็นส่วนตัวในขณะที่ยังมีแสงส่องเข้ามาภายในได้ เช่นคอนโดที่อยู่ชั้นไม่สูงนัก การติดผ้าโปร่งโดยมากจะติดคู่กับผ้าทึบโดยติดตั้งซ้อนไว้ด้านหลัง หรือก็คือการติดม่าน2ชุดซ้อนกันนั่นเอง



    บทความโดย: ร้านผ้าม่านไทย www.pamanthai.com



    วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

    ม่านสำหรับห้องต่างๆในบ้าน

    ม่านสำหรับห้องต่างๆในบ้าน

    ผ้าม่านนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่สำคัญ แต่มักจะถูกนึกถึงเป็นอันดับท้ายๆ ประโยชน์ใช้สอยของผ้าม่านที่เราต่างก็รู้จักกันดีนั้นก็คือช่วยบังแสงที่ส่องเข้ามายังในตัวบ้าน รวมไปถึงปกปิดห้องต่างๆไม่ให้คนภายนอกเห็นมากจนเกินไป

    ดังนั้นการเลือกซื้อผ้าม่านให้เหมาะสมกับห้องต่างๆภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่เราควรคำนึงถึงด้วย เพราะหากแม้ว่าจะได้ผ้าม่านที่สวยหรูมาแต่หากติดตั้งผิดวัตถุประสงค์ก็อาจจะทำให้การใช้งานของผ้าม่านไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นอกจากจะไม่ช่วยในเรื่องของประโยชน์ใช้สอยแล้ว ยังไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอีกด้วย
    หลักในการวางเลือกใช้ม่านให้เหมาะสมนั้น เราควรคำนึงถึงประเภทของห้องเป็นหลัก ซึ่งจะพิจารณาดังต่อไปนี้

    ม่านในห้องครัว : ห้องครัวถือว่าเป็นห้องที่ใช้ในการประกอบอาหารเป็นหลัก หรือบางบ้านจะใช้ห้องครัวในการรับประทานอาหารร่วมด้วย ซึ่งภายในห้องครัวแน่นอนว่าจะต้องเต็มไปด้วยกลิ่นและน้ำมันจากการประกอบอาหาร การติดตั้งผ้าม่านในห้องครัวนี้นอกจากคำนึงถึงตำแหน่งแล้ว ควรคำนึงถึงชนิดของผ้าที่ใช้ด้วยเพื่อจะได้ง่ายต่อการทำความสะอาด สิ่งสำคัญในการติดตั้งผ้าม่านในห้องครัวก็คือ พึงระวังไว้ว่าไม่ควรติดตั้งผ้าม่านในส่วนของหน้าต่างที่ติดกับเตาแก๊สหรือส่วนที่ใช้ประกอบอาหารที่มีความร้อนหรือเปลวไฟ เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้กับตัวผ้าม่าน นอกจากนั้นควรติดตั้งผ้าม่านให้ห่างจากตัวเตาแก๊สที่ทำอาหารพอสมควร ให้ลองกะระยะดูดีๆว่าหากมีลมพัดเข้ามาในห้อง ผ้าม่านจะอยู่ห่างจากเปลวไฟเพียงพอที่จะไม่เกิดการติดไฟหรือไม่
    แต่โดยปกติแล้วหากไม่จำเป็นจริงๆมักไม่ติดตั้งผ้าม่านในส่วนของห้องครัว ด้วยปัญหาข้างต้น หรือหากจำเป็นต้องใช้งานจริงๆอาจเลือกใช้เป็นม่านม้วนที่มีผิวมันและดึงใช้งานเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่มีการทำครัวเท่านั้น

    ม่านม้วนแบบซันสกรีนในห้องครัว



    ม่านในห้องนอน : ห้องนอนถือว่าเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง รวมไปถึงเป็นห้องที่เราต้องการใช้ในการพักผ่อนหลับนอน การจะติดตั้งม่านในส่วนของหน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึงในยามเช้า เพื่อป้องกันแสงแดดแยงตา ควรใช้ม่านแบบทึบแสงซึ่งม่านแบบทึบแสงมีให้เลือกใช้ได้หลายชนิดเช่น ผ้าม่านแบบทึบแสง ม่านม้วนแบบทึบแสง ม่านปรับแสงแบบทึบแสง หรือ มู่ลี่ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นต่างกันสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
    ผ้าม่านทึบแสงภายในห้องนอน



    ผ้าม่านในห้องรับแขก : ห้องรับแขก ถือว่าเป็นห้องที่ครอบครัวใช้ในการพบปะพูดคุยกันและใช้รับแขก โดยส่วนใหญ่แล้วห้องนี้จะอยู่ส่วนหน้าสุดของตัวบ้าน และสภาพภายในห้องควรจะดูโล่งสบายตา ดังนั้นการติดตั้งม่านให้เหมาะสมนั้นควรติดตั้งม่านไม่ให้ปิดบังช่องอากาศที่มีลมพัดผ่าน และไม่ควรติดตั้งให้ม่านดูปกปิดห้องมากจนเกินไป จนดูลึกลับ มืดทึบ ควรติดตั้งในส่วนของหน้าต่างที่แสงแดดส่องเข้ามามากจนถึงบริเวณโต๊ะรับแขก ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศในการพบปะกันไม่ถูกขั้นจังหวะด้วยแสงที่อาจจะเข้ามาแยงตา หากเลือกใช้เป็นผ้าม่านการติดตั้งผ้าโปร่งเสริมอีกชั้นจะช่วยเรื่องความสวยงามได้เป็นอย่างดีและยังช่วยกรองแสงจากภายนอกได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
    ผ้าม่านสองชั้นแบบมีผ้าโปร่งในห้องรับแขก


    ม่านในห้องน้ำ : ห้องน้ำเป็นห้องเราใช้ในการทำธุระส่วนตัว อาบน้ำแปรงฟัน รวมไปถึงการขับถ่าย โดยปกติมักไม่มีความจำเป็นต้องติดม่านกันเนื่องจากหน้าต่างในห้องน้ำมักจะเป็นช่องแสงช่องเล็กๆ แต่ในบ้านสมัยใหม่มักมีห้องน้ำที่มีกระจะขนาดใหญ่ การเลือกใช้ม่านสำหรับห้องน้ำนั้นหากเป็นบริเวณที่ถูกน้ำหรือความชื่นอาจใช้เป็นม่านม้วนประเภทที่ไม่อมน้ำหรือมีผิวมัน หรือ หากเป็นบริเวณที่ไม่โดนน้ำหรือความชื้นอาจเลือกติดตั้งเป็นมู่ลี่อลูมิเนียมหรือมู่ลี่ไม้เพื่อความสวยงามก็ได้
    หรือการใช้สติกเกอร์ฝ้าเพื่อพลางสายตาก็เป็นวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กัน
    มู่ลี่ไม้ภายในห้องน้ำ

    http://www.pamanthai.com/article/ม่านสำหรับห้องต่างๆในบ้าน.php

    วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

    แต่งบ้านสวยด้วยสไตล์ของม่านม้วน

    ม่านม้วน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Roller Blinds เป็นม่านที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากม่าน ม้วนมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากม่านประเภท อื่นๆ มีความสะดวกในการนำเอาไปใช้งาน และการทำงานของกลไกการม้วนของม่านที่สามารถม้วนเก็บได้อย่างเรียบร้อยสบายตา และประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
    ม่านม้วนในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งแบบทึบแสง โปร่งแสง และชนิดกันแดด แถมยังมีการออกแบบมาให้สามารถป้องกันรังสีจากแสงแดดได้อีกด้วย การออกแบบลวดลายของม่านม้วนในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นเดียวกันแต่ ส่วนใหญ่จะเป็นลวดลายแบบเล็กๆเน้นความเรียบง่ายธรรมดา ซึ่งโดยมากแล้วส่วนที่ต่างกันจะเป็นส่วนของtextureของตัวม่าน
    ความพิเศษของม่านม้วนนั้นก็คือระบบการติดตั้ง ที่ไม่ยุ่งยาก(จัดเป็นม่านที่ติดตั้งได้ง่ายที่สุด) และไม่กินพื้นที่ในการติดตั้ง(ใช้พื้นที่ประมาณ10ซม.เท่านั้น) วัสดุที่ใช้เอามาผลิตเป็นตัวม่านนั้นจะไม่ใช่ผ้าแบบม่านทั่วๆไปแต่จะเป็นใยสังเคราะห์ ซึ่งโดยมากแล้วจะมีคุณสมบัติที่ไม่เกาะฝุ่น และง่ายต่อการทำความสะอาด การเลือกใช้ม่านม้วนจะแบ่งออกเป็น 3 แบบซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อได้เปรียบและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปคือ

    ม่านม้วนแบบซันสกรีน(กันแดด) ม่วนม้วนลักษณะนี้จะเหมาะกับห้องทำงาน ร้านอาหาร หรือ ออฟฟิศ ซึ่งจะช่วยป้องกันแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง แต่ไม่ถึงกับทึบสนิท ยังสามารถมองผ่านออกไปข้างนอกได้
    จุดเด่นของม่านซันสกรีน
    • ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นวิวด้านนอกของหน้าต่างได้โดยที่ตัวม่านยังถูกปิดอยู่
    • ดึงม่านปิดแล้วไม่รู้สึกปิดทึบให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
    ข้อจำกัดของม่านแบบซันสกรีน
    • เนื่องด้วยตัวม่านมีลักษณะเป็นเส้นใหญ่ที่ทอกันห่างๆทำให้ม่านชนิดนี้ไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้ถึง100%
    • โดยขณะที่ดึงตัวม่านปิดลงในบางช่วงเวลาแสงแดดจะมีโอกาศผ่านเข้ามาภายในห้องได้(ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่แสงแดดทำมุมกับตัวม่าน)
    ม่านม้วนแบบซันสกรีนภายในออฟฟิต
    ม่านม้วนแบบซันสกรีน

    ม่านม้วนแบบทึบแสง(แบล็กเอ้าท์) ม่านม้วนลักษณะนี้เหมาะกับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง อย่างเช่นห้องนอน หรือห้องประชุม หรือภายในห้องนอน ซึ่งจะสามารถป้องกันแสงแดดที่เข้ามาในห้องได้ทั้งหมด และยังช่วยบดบังสายตาจากบุคคลภายนอกอีกด้วย
    จุดเด่นของม่านแบล็กเอ้าท์(blackout)
    • ป้องกันแสงได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับใบม่านทั้ง3ชนิด โดยสามารถป้องกันแสงได้มากกว่า 95%(โดยประมาณ)
    • เนื่องจากป้องกันแสงได้มากจึงทำให้ความร้อนก็เข้ามาได้น้อยตามไปด้วย
    • ม่านม้วนชนิดแบล็กเอาท์บางรุ่นมีผิวสัมผัสที่มันลื่นทำให้ฝุ่นไม่ติดทำให้ ดูแลรักษาได้ง่ายเหมาะกับผู้อาศัยที่มีปัญหาเรื่องฝุ่นและเวลาในการดูแล รักษา
    ข้อจำกัดของม่านแบล็กเอ้าท์(blackout)
    • เนื่องจากเมื่อปิดม่านลงแล้วแสงไม่สามารถส่องผ่านเข้ามาได้จึงอาจทำให้ รู้สึกอึดอัดได้ ม่านชนิดนี้จึงเหมาะกับบริเวณที่แดดจัดบางช่วงเวลาเท่านั้น สำหรับเวลาที่แดดไม่ส่องก็ดึงม้วนเก็บขึ้นไป
    ม่านม้วนแบบทึบแสง
    ม่านม้วนแบบทึบแสง

    ม่านม้วนแบบให้แสงส่องผ่านได้ ม่านม้วนลักษณะนี้เหมาะกับห้องที่ต้องการแสงสว่างแต่ไม่มากจนเกินไป แสงที่ส่องผ่านเข้ามากับม่านแบบนี้จะให้แสงที่มีความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติที่ สุด เหมาะกับห้องที่ต้องการบรรยากาศแบบสบายๆ แต่แฝงไว้ด้วยความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย
    จุดเด่นของม่านม้วนแบบแสงส่องผ่านได้
    • ให้ความส่วนตัวกับผู้อาศัยขณะปิดม่านลงได้ โดยที่ภายในห้องยังคงมีแสงสว่างอยู่
    • มีราคาย่อมเยากว่าใบม่านม้วนแบบอื่น
    • ป้องกันแดดได้แต่ยังมีแสงผ่านเข้ามาภายในได้
    ข้อจำกัดของตัวม่านชนิดแสงส่องผ่านได้
    • ป้องกันความร้อนได้เพียงระดับนึงเท่านั้นเนื่องจากยังมีความร้อนที่แฝงเข้ามากับแสง
    ม่านม้วนแบบให้แสงส่องผ่านได้
    ม่านม้วนแบบให้แสงส่องผ่านได้
    ระบบการทำงานของม่านม้วนมีให้เลือกทั้งแบบใช้ โซ่ดึงขึ้นและระบบใช้แรงของสปริงดึงกลับในการปิดม่านเลือกใช้ได้ตามความ เหมาะสม การติดตั้งม่านม้วนนั้นจะช่วยให้ห้องดูเป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบ สามารถที่จะเลือกระดับของผ้าม่านให้สูงต่ำได้ตามต้องการ การติดตั้งที่ไม่กินพื้นที่มากและเมื่อม้วนม่านเก็บจะเห็นพื้นที่ของ หน้าต่างแบบเต็มๆซึ่งเป็นจุดเด่นของม่านม้วนซึ่งม่านชนิดอื่นๆทำได้ยาก
    บรรยากาศที่ได้จากการตกแต่งด้วยม่านม้วนนั้นจะ ให้บรรยากาศที่มีความเป็น modern มีความทันสมัย ช่วยขับบรรยากาศในห้องให้ดูดีขึ้นมาได้ ถือว่าเป็นผ้าม่านอีกประเภทหนึ่งที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการบ้านแบบทันสมัย และบรรยากาศแบบยุคใหม่ ม่านม้วนสามารถที่จะตอบโจทย์การแต่งบ้านในลักษณะนี้ได้อย่างดีทีเดียว

    ม่านม้วนเมจิกสกรีน(magicscreen) 

    อีกรูปแบบหนึ่งของม่านม้วน ทำงานด้วยระบบม่านแบบ2ชั้น มีจุดเด่นที่สามารถเลือก ปรับแสงได้ตามต้องการและปรับให้มองวิวภายนอกหรือปิดให้ทึบได้ โดยส่วนทึบของม่านมีให้เลือกใช้ทั้งแบบดิมเอ้าท์(แสงผ่านได้)และแบล็กเอ้าท์(ทึบแสง)

    ม่านม้วนเมจิกสกรีน magicscreen


    บทความโดยร้านผ้าม่านไทย http://www.pamanthai.com

    วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

    แนะนำสินค้าของร้าน : มู่ลี่

    หน้าต่างของบ้านคุณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านดูมีมิติขึ้นถือเป็นส่วนประกอบ สำคัญที่ทุกบ้านต้องมีไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานสไลด์ มุมห้องบริเวณหน้าต่างเป็นมุมหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบนั่งริมหน้าต่าง เพื่อชมวิว อ่านหนังสือ เป็นต้นหรือจะเรียกว่าเป็นมุมส่วนตัวเลยก็ว่าได้ ควรจะติดมู่ลี่ไว้เพื่อช่วยในการบังแดด วันนี้เรามาดูกันว่ามู่ลี่ที่ทางร้านผ้าม่านไทยจำหน่ายมีคุณสมบัติอย่างไรกันบ้าง

    มู่ลี่

     มู่ลี่อลูมิเนียมที่ทางร้านผ้าม่านไทยจำหน่ายมีขนาดใบให้เลือกใช้ถึง3ขนาด แต่ขนาดที่นิยมใช้กันคือขนาดยอดนิยม 25มิลลิเมตร และ ขนาดใหญ่กำลังมาแรงคือ 50 มิลลิเมตร สำหรับมู่ลี่ใบขนาด 50 มิลลิเมตร 

    สามารถใส่เทปบันได(เทปผ้า)ในการร้อยตัวมู่ลี่เข้าด้วยกัน มีสีให้เลือกได้หลากหลายถึง17สีด้วยกัน เลือกตามความชอบต้องการได้เลยแต่อย่าลืมให้เข้ากับสีและสไตล์ของห้องด้วย ประโยชน์ของตัวเทปบันไดผ้านี้คือช่วยเพิ่มความสวยงามโดดเด่นให้กับตัวมู่ลี่ ได้เป็นอย่างดี
    สำหรับอีกขนาดคือ35มม.ก็มีจำหน่ายเช่นดียวกันแต่ราคาค่อนข้างสูงเนื่องจาก ความต้องการของลูกค้ามีไม่มากจึงไม่เป็นที่นิยมใชักัน

    การใช้งานมู่ลี่ ในการปรับองศาของใบมู่ลี่ จะสามารถปรับใบเพื่อรับแสงหรือกันแสงได้ในแนวนอน สำหรับใบขนาด 50 มม. จะปรับโดยใช้การใช้เชือก2เส้นในการดึงปรับ ส่วนขนาดใบ25 มม. จะปรับโดยใช้แกนปรับ ซึ่งระบบเชือกปรับจะมีข้อดีคือใช้งานง่ายและทนทานกว่าระบบแกนปรับ 

    อีกระบบคือระบบโซ่ดึงแต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าต้องการรับลมจากภายนอกตัวมู่ลี่สามารถดึงเก็บไว้ด้านบนได้ หรือ ถ้าหากต้องการบังแสง ก็ทำได้โดยการปลดล็อกและรูดตัวมู่ลี่ลงมา เท่านี้ก็สามารถเพิ่มมิติให้ห้องน่าสนใจมากขึ้นและมีมุมหน้าต่างสวยไว้ชมวิว แล้วคะ
     

    หน้าต่างของบ้านจะมีขนาดกว้างและสูงเท่าใดนั้นไม่ต้องกังวงเลยคะว่าร้านจะไม่มีขนาดตามต้องการ เพราะมู่ลี่ที่ทางร้านจำหน่ายจะเป็นการผลิตตามขนาดของประตูและหน้าต่างของบ้านลูกค้าพร้อมมีสีใบมู่ลี่ให้เลือกตามที่คุณต้องการได้คะและ สำหรับลูกค้าในต่างจังหวัดทางร้านมีบริการจัดส่งทั่วประเทศ

    https://www.pamanthai.com/